วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ | |
---|---|---|---|---|
27 มี.ค. 68 - 03 เม.ย. 68 | 75,555 บาท | 15,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
31 มี.ค. 68 - 07 เม.ย. 68 | 77,777 บาท | 15,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
01 เม.ย. 68 - 08 เม.ย. 68 | 77,777 บาท | 15,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
10 เม.ย. 68 - 17 เม.ย. 68 | 79,999 บาท | 15,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
12 เม.ย. 68 - 19 เม.ย. 68 | 79,999 บาท | 15,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
19 เม.ย. 68 - 26 เม.ย. 68 | 77,777 บาท | 15,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
19.30 น. คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบิน CONDOR AIRLINES (DE) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง
22.35 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี โดยสายการบิน CONDOR AIRLINES (DE) เที่ยวบินที่ DE2363 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 11 ชั่วโมง 50 นาที)
05.25 น. ถึง สนามบินนานาชาติแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากร รับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโคโลญจน์ (Cologne) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 ชั่วโมง) หรือภาษาเยอรมนีเรียกว่า เคิล์น (Koeln) เมืองแห่งน้ำหอม และมหาวิหารอันงดงาม เป็นเมืองเก่าแก่ที่สร้างขึ้นโดยชาวโรมัน ตั้งแต่สมัยปี 50 ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไรน์ และเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของเยอรมนี พร้อมทั้งได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองแห่งศูนย์กลางของศิลปะ และวัฒนธรรมในเขตลุ่มแม่น้ำไรน์
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านถ่ายภาพกับ มหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) ศาสนสถานของคริสต์ศาสนาโรมันคาทอลิก นับเป็นมหาวิหารที่ใหญ่และสูงในโลกในสมัยนั้น สร้างและตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค โดดเด่นด้วยหอคอยคู่ความสูง 157.38 เมตรเป็นแลนด์มาร์คแห่งเมืองโคโลญคู่กับสะพานโฮเอินซอลเลิร์นที่ทอดข้ามแม่น้ำไรน์ สร้างเพื่ออุทิศให้นักบุญปีเตอร์ และพระแม่มารี ปัจจุบันเป็นที่ประดิษฐานของหีบสามกษัตริย์อันล้ำค่า
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ McArthur Glen Outlet Roermond (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง) เอาท์เลทขนาดใหญ่ที่เน้นแบรนด์เนมในราคาสุดพิเศษจำนวนมากลดราคาสูงสุดถึง 70% แบรนด์ชั้นนำจากเกือบทั่วโลกมาให้เลือกซื้อเลือกช้อปกัน เช่น Gucci , Prada , Burberry, Stone Island , Valentino , Armani , boss , Michael Kors , Karl Lagerfeld , Benetton, Calvin Klein, Crocs , Guess, Lacoste, Diesel และอีกมากมาย
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ร้านอาหารแนะนำ
Schnitzelparadies Roermond แวะนั่งพักจากการช็อปปิ้ง ทานอาหารท้องถิ่นสไตร์ลเยอรมันที่มีให้ท่านเลือกสรร เมนูโดดเด่นของร้าน ได้แก่ Schnitze(ซนิตเซล) ซึ่งมีเนื้อที่หลากหลาย ซนิตเซลหมู ซนิตเซลไก่ และซนิตเซลเนื้อวัว พร้อมกับซอสและเครื่องเคียงที่อร่อยเข้ากัน (ระยะทางประมาณ 170 เมตร)
สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง)
ที่พัก โรงแรมมาตรฐานยุโรป 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านกีธูร์น (Giethoorn) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) หมู่บ้านเล็กๆ ในประเทศเนเธอแลนด์ ถูกขนานนามว่า เวนิสแห่งเนเธอร์แลนด์ เป็นหมู่บ้านน่ารักในฝันที่ไม่มีถนนแม้แต่สายเดียว พาหนะหลักจำเป็นสำหรับที่นี่คือ เรือ ที่ใช้ในการโดยสารตามแม่น้ำลำคลองรอบหมู่บ้านเท่านั้น โดยมีสะพานเชื่อมเพื่อใช้เป็นทางเดินติดต่อกันภายในหมู่บ้านกว่า 180 สะพาน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่าน ล่องเรือชมหมู่บ้านกีธูร์น (Giethoorn) สัมผัสบรรยากาศคลองโบฮีเมียน สะพานไม้ขนาดเล็ก ดอกไม้ริมคลองที่ผลิบานสะพรั่งสีสันสดใสและอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 200 ปี อิสระให้ท่านได้เดินเที่ยวชมหมู่บ้านตากอากาศอันเงียบสงบ พร้อมเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) เมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Amstel ซึ่งที่มาของชื่อเมือง มาจากการรวมชื่อของแม่น้ำเข้ากับคำว่า “Dam” ที่แปลว่าเขื่อน ความหมายรวมหมายถึงเมืองที่ตั้งอยู่ริมเขื่อนของแม่น้ำอัมสเติล จนกลายมาเป็น Amsterdam ทำให้ถูกขนานนามว่า เวนิสแห่งทะเลเหนือ เมืองอัมสเตอร์ดัมแห่งนี้มีประวัติศาสตร์เริ่มต้นจากการเป็นหมู่บ้านชาวประมง ในคริสต์ศตวรรษที่ 12 ก่อนจะกลายเป็นศูนย์กลางการค้า การเงิน และการเดินเรือที่สำคัญ ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 ซึ่งเป็นช่วงยุคทองของเนเธอร์แลนด์ และขยายตัวออกไปอีกในศตวรรษที่ 19 และ 20 แต่ระบบคลองที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 ยังได้รับการรักษาไว้เป็นอย่างดีจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับองค์การยูเนสโก
นำท่านชมการ สาธิตการเจียระไนเพชร (Coster Diamonds) อุตสาหกรรมการเจียระไนเพชรของเนเธอร์แลนด์ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ท่านสามารถเลือกซื้อกลับบ้านได้
นำท่านชม พระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม (Royal Palace of Amsterdam) (บริเวณภายนอก) เป็นอาคารที่หรูหราและโอ่โถงที่สุดของประเทศเนเธอแลนด์ สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 17 โดยพระเจ้าหลุยส์ผู้ซึ่งเป็นพระอนุชาของจักรพรรดินโปเลียน ในอดีตอาคารนี้เคยมีบทบาทเป็นศาลาว่าการมาก่อน ปัจจุบันถูกใช้สำหรับกิจกรรมในพระราชสำนักและกิจกรรมระดับประเทศ แลนด์มาร์คสำคัญอีกแห่งของอัมสเตอร์ดัม
บริเวณใกล้กันจะเป็น จัตุรัสดามสแควร์ (Dam Square) สัญลักษณ์ของอัมสเตอร์ดัมที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ โดยเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์แห่งชาติ เพื่อเป็นการระลึกถึงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นย่านที่รายล้อมไปด้วยอาคารเก่าแก่ เป็นศูนย์รวมห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ ทั้งยังเป็นสถานที่รวมตัวอันมีชีวิตชีวาไม่ว่าในโอกาสงานเฉลิมฉลองหรือการประท้วงต่างๆ ของอัมสเตอร์ดัม เดินถัดไปไม่ไกลจะเป็น Damrak เอกลักษณ์ของอัมเตอร์ดัมที่มีบ้านเรียงกันและหลังคาแต่จะหลังน่ารักๆ
ใกลักันนั้นท่านจะได้พบกับสถานที่ยอดฮิตอีกแห่งหนึ่งของเมืองอัมสเตอร์ดัมนั่นก็คือ ย่านโคมแดง (Red Light District) แหล่งท่องเที่ยวยามราตรีที่ผู้เยือนเมืองอัมสเตอร์ดัม ไม่ควรพลาด แสงสียามค่ำคืนและบรรยากาศของสาวงามตู้กระจกที่ให้บริการแบบถูกกฎหมายตลอดเส้นทาง และร้านค้าที่ขายอุปกรณ์ต่างๆ ทางเพศที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมได้อย่างอิสระ และไม่รู้สึกเคอะเขิน
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ร้านอาหารแนะนำ
1. Restaurant d'Vijff Vlieghen เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 1972 โดยมีการตั้งชื่อที่มาจากตำนานเกี่ยวกับ “แมลงวันห้าตัว” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการรับประทานอาหารที่สนุกสนาน เน้นการใช้วัตถุดิบสดใหม่และมีคุณภาพสูง โดยเสิร์ฟอาหารดัตช์ดั้งเดิม รวมถึงเมนูพิเศษที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล โดยมีเมนูแนะนำที่ท่านต้องลอง ได้แก่ Haring(เมนูปลาซาร์ดีน) และเมนู seafood ต่างๆ (ระยะทางประมาณ 700 เมตร)
2. The Seafood Bar ร้านอาหารที่โดดเด่นเมนู Seafood มีหลายสาขา โดยสาขาแรกเปิดเมื่อปี 2012 ร้านมีเมนูทะเลที่หลากหลายและวัตุดิบสดใหม่ เช่น หอยนางรม ปลาแซลมอน กุ้ง และอาหารทะเลอื่น ๆ ที่ถูกนำมาปรุงในหลากหลายรูปแบบ เช่น สลัด, ซุป, และจานหลัก (ระยะทางประมาณ 600 เมตร)
ที่พัก โรงแรมมาตรฐานยุโรป 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านมุ่งหน้าสู่ หมู่บ้านกังหันลมซานส์สคันส์ (Zaanse Schans) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอัมสเตอร์ดัม ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวดัชต์ ที่ใช้กังหันลมกว่าร้อยแห่งในงานอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17-18 โดยทำหน้าที่ผลิตน้ำมันจากดอกมัสตาร์ด กระดาษงานไม้ นอกจากนี้ภายในหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ อาทิเช่น พิพิธภัณฑ์เบอเกอรี่ชีสฟาร์ม นาฬิกา ร้านขายเครื่องกาแฟและชา โรงอบน้ำมัน (Oil Mill) และโรงงานทำรองเท้าไม้ที่อยู่คู่กับชาวดัชต์มาแต่โบราณ อิสระให้ท่านถ่ายภาพคู่กับสัญลักษณ์ของประเทศเนเธอร์แลนด์ และเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย
นำท่านเข้าชมเทศกาลดอกไม้ ณ สวนเคอเคนฮอฟ (Keukenhof) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) หรือ Garden Of Europe สวนดอกไม้สวยขนาดใหญ่กว่า 32 เฮคเตอร์ ซึ่งจะเปิดให้ชมในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคมเท่านั้น ให้ท่านชื่นชมกับความงามของดอกทิวลิปหลากสีสันรับฤดูใบไม้ผลิแข่งกับดอกไม้นานาพันธุ์ไม่ว่าจะเป็น ไฮยาซินธ์หรือเดลซี่ อิสระให้ท่านบันทึกภาพของทุ่งทิวลิปสีแดง เหลือง ม่วง ชมพูสุดหูสุดตาที่มิมีวันลืม อิสระท่านเดินเล่นชมสวนเคอเคนฮอฟตามอัธยาศัย (เทศกาลสวนเคอเคนฮอฟ เปิดให้เข้าชม 20 มีนาคม – 11 พฤษภาคม 2568)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเกนต์ (Ghent) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.15 ชั่วโมง) คือเมืองลูกผสมระหว่างยุคเก่ากับยุคใหม่ที่มีเอกลักษณ์ และความน่าสนใจทางประวัติศาสตร์ และด้วยการวางผังเมืองที่รอบคอบ ทำให้ทุกอย่างอยู่ในระยะเดินได้อย่างสะดวกสบาย ประกอบกับพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ติดแม่น้ำใหญ่ ทำให้นักท่องเที่ยวจะได้ชมทิวทัศน์ที่งดงามของสายน้ำที่ตัดกับสถาปัตยกรรมของเมืองได้อย่างลงตัว
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)
ที่พัก โรงแรมมาตรฐานยุโรป 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ เมืองบรัสเซลส์ (Brussels) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) เมืองหลวงของประเทศเบลเยียม เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย นอกจากนี้ ยังเป็นที่โด่งดังในเรื่องของช็อกโกแลตและเบียร์ที่ดีที่สุดในโลก และยังเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างประเทศอย่างคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (Council of the European Union) และสำนักงานใหญ่ของนาโต (NATO) จนถูกเรียกว่า ศูนย์กลางแห่งสหภาพยุโรป
นำท่านถ่ายรูปกับ อาคารอะโตเมียม (Atomium Building) อาคารรูปทรงแปลกตาที่ได้ต้นแบบมาจากโครงสร้างการเรียงตัวกันของอะตอมซึ่งได้รับการยอมรับในแวดวงวิทยาศาสตร์ว่ามีความสมมาตร และงดงาม คืออาคารที่เป็นเครื่องหมายแห่งความสำเร็จของเบลเยียมในการก้าวเข้าสู่การเป็นประเทศที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันระดับต้นๆ ของโลก โดยอาคารอะโตเมียมเปิดตัวครั้งแรกในงานเอ็กซ์โปครั้งที่ 17 และกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่ก้าวมาเป็นภาพจำสำคัญอีกแห่งของงานเวิลด์เอ็กซ์โป โดยปัจจุบันพื้นที่ภายในอาคารจะมีทั้งงานนิทรรศการ ร้านอาหาร จุดชมวิว ฯลฯ นับเป็นแลนด์มาร์กที่มีความล้ำหน้าทางสถาปัตยกรรมอยู่เสมอ แม้จะถูกสร้างมาแล้วกว่า 60 ปี
จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ รูปปั้นเด็กชายกำลังฉี่ (Manneken Pis) ประติมากรรมที่ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ในการแสดงความเข้มแข็ง และสามัคคีของชาวบรัสเซลส์ มาตั้งแต่การรอดพ้นจากความเสียหายอย่างน่าอัศจรรย์ ในเหตุการณ์ปฏิวัติฝรั่งเศสปี 1695 โดยปัจจุบันแมนเนเกน พิส ยังรับบทบาทเป็นทูตสันถวไมตรีผ่านอาภรณ์ตามประเพณีพื้นเมืองหรือตามเทศกาลสำคัญในหลากประเทศทั่วโลก ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถหาชมคอลเลกชั่นเสื้อผ้าที่มีอยู่กว่า 1,000 ชุด ภายในพิพิธภัณฑ์เสื้อผ้าแมนเนเกน พิส ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกันได้อีกด้วย
จากนั้นให้ท่านอิสระเดินเล่นย่าน จัตุรัสกรองด์ ปลาส (Grand-Place) จัดเป็นหนึ่งในจตุรัสที่สวยงามที่สุดในยุโรป เป็นสถานที่ซึ่งเป็นจุดรวมของอาคารและสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเก่าเเก่เเบบบาร็อก โกธิก เเละนีโอโกธิก ศาลาว่าการกรุงบรัสเซลส์ (Brussels Town Hall) เป็นสถาปัตยกรรมเก่าเเก่ เเละเป็นอาคารที่ถือว่างดงามมาก มีจุดเด่นอยู่ที่ยอดแหลมของหอแขวนระฆัง บริเวณใกล้กันให้ท่านอิสระที่ ศูนย์การค้าแกลเลอรี รอยัล แซ็ง อูแบร์ (Galeries Royales Saint Hubert) ศูนย์การค้าที่ถูกใช้เป็นพื้นที่สังสรรค์ ช้อปปิ้ง ให้ความบันเทิงแก่เหล่าบุคคลชั้นสูงของเมืองบรัสเซลส์ในสมัยศตวรรษที่ 19 แห่งนี้ คือโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ และประสบความสำเร็จที่สุดครั้งหนึ่งของเมือง โดยได้รับการออกแบบอย่างงดงามในสถาปัตยกรรมยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา มีร้านค้า ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ ฯลฯ ที่ตั้งอยู่กับศูนย์การค้ามาตั้งแต่แรกเริ่ม และแทรกไปด้วยร้านค้าแบรนด์ดังประปราย โดยปัจจุบันศูนย์การค้าแห่งนี้ไม่เพียงเป็นแหล่งรวมความบันเทิงยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรมซึ่งสามารถมาสัมผัสวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวบรัสเซลส์ที่สะท้อนอยู่ในทุกอณูของศูนย์การค้า
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ ประเทศลักเซมเบิร์ก (Luxembourg) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.15 ชั่วโมง) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปยุโรป เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ด้วยพื้นที่เพียง 2,586 ตารางกิโลเมตรจึงทำให้ลักเซมเบิร์กเป็นรัฐอธิปไตยที่เล็กที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปยุโรป
นำท่านชม มหาวิหาร Notre Dame Cathedral เป็นมหาวิหารชื่อดังของ ลักเซมเบิร์ก ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยวิหารแห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิกผสมเรอเนซองส์ที่สวยที่สุดเมื่อเทียบกับมหาวิหารที่สร้างขึ้นแบบฝรั่งเศส มีจุดเด่นเป็นยอดแหลมสูง 3 ยอด สามารถมองเห็นได้แต่ไกล ด้วยเอกลักษณ์และความงดงามที่ทำให้โบสถ์แห่งนี้แตกต่างจากมหาวิหารทั่วไป ส่งผลให้ปัจจุบันมหาวิหารแห่งนี้กลายอีกหนึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของลักเซมเบิร์กที่นักท่องเที่ยวต้องไปเยือน
จากนั้นให้ท่านอิสระเดินเล่นชม เมืองเก่าของลักเซมเบิร์ก เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ร้านอาหารแนะนำ
1. Café-Restaurant Um Dierfgen ร้านอาหารใจกลางเมือง Luxembourg ที่นำเสนออาหารแบบท้องถิ่นด้วยวัตถุดิบสดใหม่ การบริการที่อบอุ่นและเป็นกันเองของพนักงาน กับบรรยากาศที่เป็นมิตร มีเมนูที่หลากหลายให้ท่านเลือกรับประทานอย่างอิสระอย่างสเต็กเนื้อต่างๆ โดยเมนูขึ้นชื่อของร้าน ได้แก่ Gromperekichelcher มันฝรั่งทอดกรอบ รูปแบบของแพนเค้ก มักเสิร์ฟพร้อมซอสแอปเปิ้ล เป็นของว่างยอดนิยม, สเต็กเนื้อม้า, เมนูเนื้อวัวและปลาตามฤดูกาล (ระยาทางประมาณ 350 เมตร)
2. Girotondo Luxembourg ร้านอาหารสไตร์ลอิตาเลียนก่อตั้งในต้นยุค 2000 ให้ท่านเปลี่ยนบรรยากาศมื้ออาหาร ทานเมนูยอดนิยมอย่างพิซซ่า พาสต้า ริซอตโต ที่ใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล ด้วยเหตุนี้ร้านจึงมีการเปลี่ยนแปลงเมนูต่างๆเสมอๆเพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุดิบที่มีในตลาด ทำให้ได้อาหารที่มีความสดใหม่ทุกเมนู แล้วตบท้ายด้วยขนมหวานอร่อยๆอย่าง Tiramisu, Gelato (ระยาทางประมาณ 500 เมตร)
ที่พัก โรงแรมมาตรฐานยุโรป 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.15 ชั่วโมง) เมืองหลวงแห่งแคว้นอัลซาส (Alsace) ของประเทศฝรั่งเศส และยังเป็นได้รับการยกย่องเป็นเมืองมรดกโลกด้านมนุษยชาติจากองค์การยูเนสโกเมืองซึ่งผสมผสาน 2 วัฒนธรรมคือ ฝรั่งเศสและเยอรมัน เนื่องจากในอดีตถูกผลัดเปลี่ยนอยู่ภายใต้การปกครองของ 2 ประเทศนี้สลับกันไปมา ทั้งยังเป็นสถานที่ตั้งขององค์กรสำคัญของยุโรป อาทิ สภายุโรป องค์กรสิทธิมนุษยชน และศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป ที่นี่ยังเป็นเมืองมหาวิทยาลัยดังชั้นนำที่เกอร์เธ (Goethe) นักเขียนชาวเยอรมันเคยศึกษาอยู่
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
ร้านอาหารแนะนำ
Le petite Venise ร้านตั้งอยู่ในบริเวณ La Petite France ซึ่งเป็นย่านที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกและการตกแต่งแบบดั้งเดิม เปิดให้บริการตั้งแต่ 1970 โดยร้านอาหารนำเสนอเมนู Alsatian ซึ่งเป็นความผสมผสานวัฒนธรรมของชาวฝรั่งเศสและเยอรมันเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เมนูที่ท่านต้องลองได้แก่ Tarte Flambée (พายบาง ๆ ที่มักจะมีท็อปปิ้งเป็นครีมชีส เบคอน และหอมแดง), Choucroute Garnie (อาหารหลักของภูมิภาคอัลซาเซียนที่ประกอบด้วยซาวเธอเฮอร์เบอรี่ เสิร์ฟพร้อมกับเนื้อหลายชนิด เช่น ไส้กรอกและเนื้อหมู) เป็นต้น (ระยะทางประมาณ 140 เมตร)
นำท่านชม จัตุรัสเกลแบร์ (Place Kléber) เป็น จัตุรัสกลางเมือง ที่ใหญ่ที่สุดของสตราสบูร์ก ตั้งอยู่ใจกลางย่านการค้าของเมืองโดยตั้งชื่อตามนายพล Jean-Baptiste Kléber นักปฏิวัติชาวฝรั่งเศสซึ่งเกิดที่เมืองสตราสบูร์กในปี 1753 ลักษณะเป็นลานกว้างที่เต็มไปด้วยตึกอาคารโบราณที่สวยงาม บริเวณรอบๆจะประกอบไปด้วยร้านค้า, ร้านอาหาร, ร้านเบเกอรี่ขนมปัง, ร้านขายดอกไม้, ตลอดจนร้านขายเสื้อผ้า และอื่นๆอีกมากมาย ในวันหยุดหรือช่วงเทศกาลต่างๆที่สำคัญ สถานที่แห่งนี้ก็มักจะใช้เป็นเป็นที่จัดกิจกรรมอยู่เสมอ ที่ยิ่งใหญ่และโด่งดังก็คือ งานวันคริสต์มาสของทุกปี โดยจะมีต้นสนคริสต์มาสขนาดใหญ่อลังการซึ่งมีความสูงถึง 30 เมตรมาตั้งอยู่บริเวณใจกลางจัตุรัส
Place Kleber ถือเป็นสถานที่จัดงานคริสต์มาสแบบดั้งเดิมและเก่าแก่ที่สุดในยุโรป ซึ่งจัดกันมานานหลายศตวรรษจนโด่งดัง อันเป็นที่มาของฉายา “เมืองหลวงแห่งคริสต์มาส”
จากนั้นเดินไปไม่ไกลนัก ท่านจะได้เห็น เปอร์ติต ฟรองซ์ (La Petite France) หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า “Little France” อยู่ถัดจากบริเวณสะพาน Ponts Couverts บนเกาะใหญ่ กร็องดีล (Grande Île ) พื้นที่ในบริเวณนี้เป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีอายุหลายร้อยปี มีอาคารบ้านเรือนจากยุคกลางสไตล์เยอรมันที่เรียกว่า Half-Timbered สีสันสดใสเรียงรายอยู่ริมน้ำดูน่ารักเหมือนบ้านในนิทานเด็ก ตามตรอกซอกซอยมีร้านอาหาร ร้านกาแฟที่อร่อยตั้งอยู่มากมาย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองเก่าแก่อายุนับพันปีของเยอรมนี เมืองแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าโรแมนติกที่สุดในเยอรมนี อาคารบ้านเรือนสีน้ำตาลแดงที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาและแม่น้ำเน็คคาร์ Neckar เมืองนี้ตั้งอยู่ทางด้านใต้ของแฟรงก์เฟิร์ต
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก โรงแรมมาตรฐานยุโรป 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ถนนสายหลักของเมือง Hauptstrasse ซึ่งสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารตลอดทั้งเส้นทาง ผ่านชมหอนาฬิกาของโบสถ์ Providenzkirche จากนั้นเข้าสู่ Marktplatz จัตุรัสที่เป็นที่ตั้งของโบสถ์ Heiliggeistkirche หรือโบสถ์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ เดิมเคยเป็นโบสถ์ที่ถูกสร้างด้วยรูปแบบ Gothic แต่สงครามฝรั่งเศสในปี 1709 โบสถ์นี้ได้รับความเสียหาย จึงมีการสร้างขึ้นใหม่ในแบบบารอค ปัจจุบันได้เปลี่ยนจากนิกายคาทอลิก เป็นโปรเตสแตนต์อย่างเต็มอิสระท่านเดินเล่นชมเมืองหรือเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย หรือท่านสามารถเดินมาถ่ายรูปเมืองบริเวณสะพาน ซึ่งเป็นจุดถ่ายรูปที่สามารถมองเห็นปราสาทไฮเดลเบิร์ก (Schloss Heidelberg) เป็นปราสาทเก่าแก่ในเมืองไฮเดลเบิร์ก ตั้งอยู่บนยอดเขาที่มองเห็นวิวเมือง ในอดีตเคยเป็นป้อมปราการและได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นปราสาทในช่วงปี ค.ศ.1398
นำท่านเดินทางสู่ เมืองแฟรงค์เฟิร์ต (Frankfurt) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไมน์ (Main river) ศูนย์กลางทางการเงินของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในกลุ่มสหภาพยุโรป มีตึกระฟ้าอยู่มากมาย ซึ่งในปี 2004 เมืองแฟรงค์เฟิร์ต ได้กลายเป็นเมืองที่มีตึกระฟ้ามากที่สุดถึง 10 ตึก ซึ่งเป็นอันดับ 2 ของโลก รองเพียงเมืองปารีสเท่านั้น
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
ร้านอาหารแนะนำ
Paulaner am Dom ร้านอาหารท้องถื่นสไตร์ลบาวาเรีย ก่อตั้งช่วงปลายศตวรรษที่ 20 โดยเป็นส่วนหนึ่งของเครือ Paulaner ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากว่า 200 ปีในการผลิตเบียร์ เบียร์ที่โด่งดังที่สุดในร้านคือ Paulanerรวมถึง Paulaner Hefe-Weißbier และ Paulaner Oktoberfest ร้านตั้งอยู่ใกล้กับวิหารแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurter Dom) ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งมีเมนูขึ้นชื่อของเมืองที่ต้องสั่งมารับประทานคู่กับเบียร์ให้ท่านได้สัมผัสความเป็นเยอรมันที่แท้จริง อย่าง Sausages (Wurst) หรือไส้กรอกเยอรมัน, Pork Knuckle (Schweinshaxe) ขาหมูอบกรอบที่เสิร์ฟพร้อมกับมันฝรั่งและกะหล่ำปลีหมัก และมี Wiener Schnitzel (ชนิทเซิลต้นตำรับออสเตรีย) อีกด้วย (ระยะทางประมาณ 350 เมตร)
เข้าสู่ย่านเมืองเก่านครแฟรงค์เฟิร์ต ถ่ายภาพ ณ จัตุรัสโรเมอร์ (Romerberg) ซึ่งเป็นจัตุรัสที่มีชื่อเสียงเก่าแก่ที่สุด อีกทั้งด้านข้างยังมี ศาลาว่าการเมือง (The Romer) หรือ Frankfurt City Hall และ มหาวิหารแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt Cathedral) โดยมีอีกชื่อนึงว่า “มหาวิหารเซนต์บาร์โธโลมิว” มหาวิหารแห่งนี้นับว่าเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมือง มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิก ที่มีความสูง 95 เมตร มหาวิหารแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นดั่งศูนย์รวมใจของคนในชาติเยอรมนี และนับเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดของเมือง
นำท่านชม สะพานไอเซิร์นเนอร์เสต็ก (Eiserner Steg) สะพานคนเดินอันเก่าแก่ของเมืองแฟรงค์เฟิร์ตที่ทอดข้ามแม่น้ำไมน์ (Main River) เชื่อมพื้นที่ระหว่างบริเวณศูนย์กลางเมืองและพื้นที่ริมแม่น้ำฝั่งใต้เข้าไว้ด้วยกัน เป็นจุดชมวิวริมแม่น้ำที่มีทัศนียภาพอันงดงาม และยังเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมในการคล้องกุญแจแห่งความรักที่บริเวณรั้วด้านข้างของสะพานอีกด้วย
จากนั้นให้ท่านอิสระ ช้อปปิ้ง ณ ถนนซายล์ (Zeil Street) ย่านช้อปปิ้งเก่าแก่และคึกคักที่สุดของเมืองแฟรงค์เฟิร์ต ตั้งอยู่ริมถนนซายล์ เป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่สำคัญในประเทศเยอรมนี ถือว่าเป็นถนนยาวที่สุดของประเทศ มีสินค้าหลากหลายบริเวณถนนสายนี้ เต็มไปด้วยร้านบูติกเล็กๆ เครื่องประดับโบราณ เครื่องใช้ไฟฟ้า ร้านขายของเฟอร์นิเจอร์ และห้างสรรพสินค้าต่างๆ มากมาย หรือเรียกได้ว่าเป็น The Fifth Avenue ของเยอรมัน
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบินแฟรงค์เฟิร์ต (Frankfurt) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที)
19.30 น. ออกเดินทางสู่ ประเทศไทย โดยสายการบิน CONDOR AIRLINES (DE) เที่ยวบินที่ DE2362 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 11 ชั่วโมง 50 นาที)
12.20 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ ชั้นประหยัด พร้อมคณะ รวมค่าภาษีสนามบิน และค่าภาษีน้ำมัน
ค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระท่านละ ไม่เกิน 23 กิโลกรัม จำนวน 1 ใบ และถือขึ้นเครื่องไม่เกิน 7 กิโลกรัม
ค่ารถนำเที่ยวตามเส้นทางที่ระบุไว้ในโปรแกรมทัวร์ พร้อมคนขับรถ (กฎหมายไม่อนุญาตให้ขับรถเกิน 12 ช.ม./วัน)
โรงแรมที่พักตามระบุในรายการ หรือ เทียบเท่าในระดับเดียวกัน (ห้องละ 2 ท่าน)
ค่าอาหารและค่าเข้าชม ตามที่ระบุในรายการ
ค่ามัคคุเทศก์ผู้มีประสบการณ์นำเที่ยวคอยบริการและอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)
อัตราค่าบริการนี้ ไม่ รวม
ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
ค่าธรรมเนียมวีซ่ายุโรปหรือกลุ่มเชงเก้นวีซ่าและค่าบริการของศูนย์ยื่นวีซ่า โดยประมาณ 4,500-6,000 บาท ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนที่ทางสถานทูตกำหนด และไม่รวมค่าบริการยื่นวีซ่าของเจ้าหน้าที่ท่านละ 500 บาท *ชำระกับเจ้าหน้าที่วีซ่า ณ วันยื่น* ทั้งนี้ไม่รวมค่าธรรมเนียมวีซ่าคิวพิเศษอื่นๆ (การชำระค่าวีซ่าตามจริง เป็นวิธีประหยัดและคุ้มค่าที่สุด เราได้เลือกสรรค์สิ่งที่คุ้มค่าที่สุดให้ท่านแล้ว)
กรณีลูกค้าไม่สะดวกไปตามวันยื่นวีซ่าที่บริษัทกำหนด และต้องทำคิววีซ่าแยก ลูกค้าต้องชำระเงินในส่วนค่าบริการของศูนย์ยื่นวีซ่าก่อน เนื่องจากทางศูนย์ยื่นวีซ่าออกกฎใหม่ ต้องชำระค่าบริการทันทีในวันที่ทำการจองคิว ทั้งนี้หากจองแล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนวัน เปลี่ยนเวลา และไม่สามารถเรียกคืนค่าบริการได้
ค่าธรรมเนียมน้ำมัน และภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้น
ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าทำหนังสือเดินทาง , ค่าโทรศัพท์ , ค่าอินเตอร์เน็ต , ค่าซักรีด , มินิบาร์ในห้องพัก , ค่ากระเป๋าเดินทางหากเกิดการชำรุดหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง , ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว รวมถึงค่าอาหารพิเศษนอกเหนือจากที่ทางทัวร์กำหนด หรือการรีเควสอาหารพิเศษต่างๆ เช่น อาหารเจ อาหารมังสวิรัติ อาหารอิสลาม อาหารทะเล เป็นต้น
ค่าน้ำหนักกระเป๋าส่วนเกินจากที่ทางสายการบินกำหนด
ค่าจ้างของคนขับรถท้องถิ่น ท่านละ 3,500 บาท ชำระที่สนามบิน ณ วันเดินทาง
ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ (ตามมาตรฐานการให้ทิปวันละ 100 บาท/ท่าน/วัน)
**ทั้งนี้ไม่ได้เป็นการบังคับ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของท่าน ในการบริการของหัวหน้าทัวร์**
ค่าพนักงานยกกระเป๋า ณ โรงแรมที่พัก (ทางบริษัทฯ ไม่ได้จัดให้แก่ท่านเนื่องจากป้องกันการสูญหายจากมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาในโรงแรมที่พักและเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้าห้องพักสำหรับทุกท่าน)
ค่าตรวจ RT-PCR TEST (ถ้ามี)
หมายเหตุ : กรุณาอ่านศึกษารายละเอียดทั้งหมดก่อนทำการจอง เพื่อความถูกต้องและความเข้าใจตรงกันระหว่างลูกค้าและบริษัทฯ เมื่อท่านตกลงชำระเงินมัดจำหรือค่าทัวร์ทั้งหมดกับทางบริษัทฯแล้ว ทางบริษัทฯจะถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ทั้งหมด
บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเลื่อน, ยกเลิกการเดินทาง หรือปรับราคาค่าบริการขึ้น ในกรณีที่มีผู้เดินทางน้อยกว่า 15 ท่าน
เมื่อท่านตกลงชำระเงินมัดจำหรือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านตัวแทนของบริษัทฯ หรือชำระโดยตรงกับทางบริษัทฯ ทางบริษัทฯ จะขอถือว่าท่านรับทราบและยอมรับในเงื่อนไขต่างๆที่บริษัทฯได้ระบุไว้ทั้งหมด
เนื่องจากตั๋วเครื่องบินเป็นตั๋วกรุ๊ปราคาพิเศษ ในกรณีที่ท่านไม่สามารถเดินทางพร้อมคณะไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ตั๋วเครื่องบินไม่สามารถ เลื่อนวันเดินทาง, เปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน หรือคืนเงินได้
หากสายการบินมีการปรับขึ้นของค่าภาษีสนามบิน หรือภาษีน้ำมัน ทางบริษัทจะเรียกเก็บเพิ่มตามจริง
หนังสือเดินทางต้องมีอายุเหลือการใช้งานมากกว่า 6 เดือน (นับจากวันเดินทางกลับ) และบริษัทฯ รับเฉพาะผู้มีจุดประสงค์เดินทางเพื่อท่องเที่ยวเท่านั้น
บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดทัวร์บางประการเมื่อเกิดเหตุสุดวิสัย อาทิเช่น เที่ยวบิน รายการท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดกรณีความล่าช้าจากสายการบิน, สายการบินยกเลิกเที่ยวบิน, การประท้วง, การนัดหยุดงาน, การก่อจลาจล, โรคระบาด, ภัยธรรมชาติ, อุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัท
บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดสิ่งของสูญหาย อันเนื่องมาจากความประมาทของท่าน, เกิดจากการโจรกรรม และ อุบัติเหตุจากความประมาทของนักท่องเที่ยวเอง
บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น และไม่สามารถคืนค่าใช้จ่ายต่างๆ ในกรณีที่ผู้เดินทางไม่ผ่านการพิจารณาในการตรวจคนเข้าเมือง-ออกเมือง ไม่ว่าจะเป็นกองตรวจคนเข้าเมืองหรือกรมแรงงานของทุกประเทศในรายการท่องเที่ยว อันเนื่องมาจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย การหลบหนีเข้าออกเมือง เอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ การถูกปฏิเสธในกรณีอื่นๆ
บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านใช้บริการของทางบริษัทฯไม่ครบ อาทิ ไม่เที่ยวบางรายการ, ไม่ทานอาหารบางมื้อ เนื่องด้วยค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ทางบริษัทฯได้มีการชำระค่าใช้จ่ายให้ตัวแทนต่างประเทศแบบเหมาขาดก่อนออกเดินทางแล้ว
รายการนี้เป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทฯ อีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้สำรองโรงแรมที่พักในต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว โดยโรงแรมจัดในระดับใกล้เคียงกัน ซึ่งอาจจะปรับเปลี่ยนตามที่ระบุในโปรแกรม
การจัดการเรื่องห้องพัก เป็นสิทธิ์ของโรงแรมในการจัดห้องให้กับกรุ๊ปที่เข้าพัก โดยมีห้องพักสำหรับผู้สูบบุหรี่/ปลอดบุหรี่ โดยอาจจะขอเปลี่ยนห้องได้ตามความประสงค์ของผู้ที่พัก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมให้บริการของโรงแรม ไม่สามารถยืนยันได้
กรณีมีผู้ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ นั่งรถเข็น (WHEELCHAIR), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด (กรุณาแจ้งให้ทางบริษัทฯ ทราบล่วงหน้าก่อนทำการจอง)
ประกันการเดินทาง บริษัทฯ ได้จัดทำแผนประกันภัยการเดินทางสำหรับผู้เดินทางไปต่างประเทศ แบบ Group tour โดยแผนประกันจะครอบคลุมอุบัติเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างช่วงที่เดินทาง และลูกค้าต้องทำการรักษาในโรงพยาบาลที่ประกันครอบคลุมการรักษาเท่านั้น (เข้ารับรักษาในรูปแบบอื่นๆ ประกันจะไม่ครอบคลุม) (เงื่อนไขตามกรมธรรม์ สอบถามได้กับเจ้าหน้าที่บริษัท)
ค่าประกันสุขภาพไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์ ท่านสามารถซื้อเพิ่มเติมเองได้
ทางบริษัทฯ ยึดตามประกาศของทางรัฐฯและประเทศที่เดินทางเป็นหลัก หากมีการเปลี่ยนแปลงหรือประกาศใดๆ ทางบริษัทฯจะคำนึงถึงความปลอดภัยและประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสำคัญ
มัคคุเทศก์ พนักงาน หรือตัวแทนของทางบริษัท ไม่มีอำนาจในการให้คำสัญญาใดๆ แทนบริษัท เว้นแต่ มีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของบริษัทกำกับเท่านั้น
หากลูกค้าต้องจองตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ รถโดยสารภายในประเทศ หรือรถไฟ กรุณาแจ้งและสอบถามกับเจ้าหน้าที่ของบริษัททราบก่อนจองทุกครั้ง ไม่เช่นนั้นบริษัทจะไม่รับผิดชอบทุกกรณีหากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
ภาพที่ใช้ในโปรแกรมเป็นภาพที่ใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
เอกสารต่างๆ ที่ใช้ในการยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป ทางสถานทูตเป็นผู้กำหนดออกมา มิใช่บริษัททัวร์เป็นผู้กำหนด ท่านที่มีความประสงค์จะยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป กรุณาจัดเตรียมเอกสารให้ถูกต้อง และครบถ้วนตามที่สถานทูตต้องการ เพราะจะมีผลต่อการพิจารณาวีซ่าของท่าน บริษัททัวร์เป็นแต่เพียงตัวกลาง และอำนวยความสะดวกในการยื่นวีซ่าเท่านั้น มิได้เป็นผู้พิจารณาวีซ่าให้กับท่าน การผ่านหรือไม่ผ่านการพิจารณาขึ้นอยู่กับสถานทูต
สำนักงานใหญ่ 234/142 หมู่ที่ 7 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง สมุทรปราการ 10280